คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ COVID-19
(Q & A COVID-19)
Q: อาการของโรคโควิด-19 มีอะไรบ้าง ?
A: องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ชี้ว่า อาการของโรคประกอบไปด้วย การมีไข้ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ อาการไอลักษณะแห้งๆ หายใจไม่สะดวก หายใจถี่ บางรายอาจมีอาการท้องเสีย ไปจนถึงอาการที่หนักขึ้น อย่างเช่น อาการปอดบวม อาการทางเดินหายใจผิดปกติเฉียบพลัน
Q: ใครต้องตรวจโควิด-19 บ้าง ?
A: ผู้ที่จะต้องเข้ารับการตรวจโควิด-19 ต้องเป็น “ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์” คือ มีอาการและประวัติเสี่ยง ได้แก่ มีไข้ 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป ร่วมกับอาการระบบทางเดินหายใจเช่น ไอ น้ำมูก เจ็บคอ ไม่ได้กลิ่น หายใจเร็ว หรือ หายใจลำบาก อย่างใดอย่างหนึ่ง และมีประวัติเสี่ยงในช่วง 14 วันก่อนมีอาการ อย่างใดอย่างหนึ่งได้แก่ * เดินทางไปหรือมาจากประเทศ หรืออยู่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงที่มีรายงานการระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 * ประกอบอาชีพสัมผัสกับนักท่องเที่ยว สถานที่แออัด หรือติดต่อกับคนจำนวนมาก * ไปในสถานที่ชุมชน หรือสถานที่ที่มีการรวมกลุ่มคน เช่นตลาดนัด ห้างสรรพสินค้า สถานพยาบาล ขนส่งสาธารณะ * ผู้ที่สัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 โดยไม่ได้ใส่อุปกรณ์ป้องกันตนเองที่เหมาะสม * บุคลากรทางการแพทย์ที่มีอาการระบบทางเดินหายใจเช่น ไอ น้ำมูก เจ็บคอ ไม่ได้กลิ่น หายใจเร็ว หรือ หายใจลำบาก อย่างใดอย่างหนึ่ง และหรือมีประวัติไข้ตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป ซึ่งแพทย์ผู้ตรวจรักษาสงสัยว่าเป็นCOVID-19 * ผู้ป่วยปอดอักเสบที่แพทย์ผู้ตรวจรักษาสงสัยว่าเป็นCOVID-19
Q: ตรวจโควิด-19 ได้ที่ไหนและใช้สิทธิอะไรได้บ้าง ?
A: สำหรับผู้ที่เข้าเกณฑ์ ในกรณีของประเทศไทย สามารถไปตรวจตามโรงพยาบาลตามสิทธิประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) หรือประกันสังคมได้ฟรี และหากพบว่าติดเชื้อก็จะรักษาฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ไม่เข้าเกณฑ์ แต่กังวลว่าตัวเองอาจติดเชื้อและต้องการตรวจโดยที่แพทย์ไม่ได้วินิจฉัยให้ตรวจก็สามารถตรวจได้โดยเสียค่าใช้จ่ายเอง ซึ่งทางห้องปฏิบัติการของโรงพยาบาลราชเวชอุบลราชธานี เป็นหนึ่งในห้องปฏิบัติการที่ผ่านการรับรองและประกาศให้เป็นห้องปฏิบัติการเครือข่ายตรวจ SARS-CoV-2 (COVID-19)จากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
Q: การตรวจหาเชื้อโควิด-19 คืออะไร
A: เป็นการตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อวินิจฉัยโรคโควิด-19 จากสารคัดหลั่งทางเดินหายใจส่วนบน ส่วนล่าง ของผู้สงสัยติดเชื้อโควิด-19 โดยการตรวจหาสารพันธุกรรม (RT-PCR) ซึ่งเป็นวิธีมาตรฐานสากล ที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ เนื่องจากมีความไวและความจำเพาะสูง สามารถทราบผลได้ภายใน 3-5 ชั่วโมงและสามารถตรวจจับเชื้อไวรัสในปริมาณน้อยๆได้ เหมาะสำหรับการตรวจวินิจฉัยโรคเพื่อการรักษาที่รวดเร็ว ตั้งแต่ระยะแรกของการเกิดโรค
Q: การตรวจแอนติบอดีคืออะไร
A: การตรวจแอนติบอดีหรือ Rapid test เป็นตรวจเลือดเพื่อหาภูมิต้านทาน Anti-SARS-CoV-2 ในผู้ป่วยที่ได้สัมผัสกับเชื้อมาแล้ว โดยเชื้อไวรัสดังกล่าวเป็นต้นเหตุของโรคโควิด-19 การตรวจจับสารภูมิต้านทานนี้จะช่วยระบุว่าผู้เข้ารับการตรวจ มีภูมิต้านทานไวรัสตัวนี้หรือไม่ และเป็นข้อมูลสำคัญเพื่อประกอบการรักษาต่อไป ซึ่งการตรวจ Rapid test สามารถทราบผลได้ภายใน 15 นาที การตรวจวิธีนี้จะตรวจพบภูมิคุ้มกันหลังมีอาการป่วย 5-7 วัน หรือได้รับเชื้อมาแล้ว 10-14 วัน ร่างกายจึงจะสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาต้านเชื้อโรค ดังนั้นการใช้ Rapid Test ตรวจภูมิคุ้มกันในช่วงแรกของการรับเชื้อ หรือช่วงแรกที่มีอาการ ผลการตรวจจะขึ้นลบ ซึ่งไม่ได้แสดงว่าผู้ป่วยไม่ได้ติดเชื้อโควิด-19 เนื่องจากภูมิคุ้มกันยังไม่เกิดขึ้น
Q: ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันโควิด-19 หรือไม่ ?
A: ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19
Q: เบอร์ติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคืออะไรบ้าง ?
A: * สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422
* สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ 1669
* ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน 1111
* โรงพยาบาลราชเวชอุบลราชธานี 045-959683
ด้วยความห่วงใยจาก
วันเวลาทำการ
เปิดให้บริการ ทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ เวลา 08:00 – 20:00 น.
หากท่านมีข้อสงสัยในอาการเจ็บป่วย หรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ได้ทางช่องทางดังต่อไปนี้
- Facebook : โรงพยาบาลราชเวชอุบลราชธานี
- Line : Line Official RajavejUbon
- Tel : 045 959 683