คุณรู้หรือไม่? การล้มหัวฟาดพื้น ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคต่างๆ
คุณรู้หรือไม่? การล้มหัวฟาดพื้น ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคต่างๆ ได้ดังนี้
1. บาดเจ็บที่ศีรษะและสมอง: การล้มหัวฟาดพื้น อาจทำให้เกิดบาดเจ็บที่ศีรษะและสมอง ซึ่งอาจร้ายแรงที่ต้องได้รับการรักษาทางการแพทย์ทันที เช่น อาจเกิดการสั่นสะเทือนสมอง (concussion) หรือบาดเจ็บสมองที่รุนแรงกว่านั้น
2. กระดูกแตกหรือหัก: การได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะหรือกระดูกส่วนอื่นของร่างกาย อาจทำให้เกิดการหักหรือแตกได้
3. ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ: การล้มหัวฟาดพื้น อาจทำให้กล้ามเนื้อถูกบาดเจ็บ ทำให้เกิดอาการปวดเมื่อย และอาจใช้เวลาในการฟื้นตัว
4. โรคต่อเนื่องระยะยาว: บางครั้งการล้มหัวฟาดพื้น อาจทำให้เกิดการเป็นโรคในระยะยาวได้ เช่น ข้อเสื่อม หรือปัญหาเกี่ยวกับระบบกระดูกและข้อต่อ
ซึ่งในช่วงนี้ฝนตกบ่อย น้ำท่วมขัง พื้นลื่น ซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุลื่นล้ม หัวฟาดพื้นได้ ราชเวชอุบลฯ จึงขอแนะนำวิธีป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว ดังนี้
1. ปรับแต่งสภาพแวดล้อม: ลดการเกิดสภาวะที่ทำให้พื้นลื่นไถล ทำความสะอาดพื้นไม่ให้เปียกหรือเกิดคราบตะไคร่น้ำ คราบเชื้อรา, ปรับพื้นที่ให้ลาดเอียงไม่ให้น้ำท่วมขัง, เพิ่มแสงสว่างในพื้นที่ให้เพียงพอ, ห้องน้ำควรแยกพื้นที่ส่วนเปียกคือบริเวณอาบน้ำและพื้นที่ส่วนแห้งคือบริเวณล้างมือและโถสุขภัณฑ์, ไม่เอาตัวเองไปอยู่ในพื้นที่ ที่เสี่ยงต่อเกิดอุบัติเหตุลื่นล้ม
2. เลือกใช้รองเท้าที่เหมาะสม: ใช้รองเท้าที่มีพื้นด้านล่างเป็นลายยางหรือวัสดุที่มีความยึดเหนียว เพื่อลดความเสี่ยงในการลื่นไถลบนพื้นเปียกหรือลื่น
3. การใช้อุปกรณ์ช่วย: หากมีปัญหาทางการเดิน การใช้อุปกรณ์ช่วย เช่น ไม้เท้ากันไถล อาจช่วยในการป้องกันการล้ม
4. ออกกำลังกายเพื่อเสริมกล้ามเนื้อ: การออกกำลังกายเพื่อเสริมกล้ามเนื้อ ทั้งเสริมกล้ามเนื้อขาและลำตัว จะช่วยให้ร่างกายมีความสมดุลและยึดตัวได้ดีขึ้น
5. การดูแลสุขภาพทางสมอง: ความไม่สมดุลทางระบบประสาทและสมอง อาจเป็นสาเหตุให้เกิดการล้มได้ ดังนั้นการดูแลสุขภาพทางประสาทและสมองจึงสำคัญ
6. การตรวจสุขภาพประจำปี: เพื่อจะได้รู้ว่ามีโรคประจำตัวที่เสี่ยงทำให้เกิดการล้มหัวฟาดพื้นหรือไม่ จะได้ระมัดระวังและรักษาอาการที่เป็น และลดอุบัติเหตุได้
ทั้งนี้ หากคุณหรือคนที่คุณรัก ได้รับบาดเจ็บจากการล้มหัวฟาดพื้น ควรพบแพทย์เพื่อการตรวจวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม หากมีอาการรุนแรง เช่น เลือดออกจากหู มีอาการสับสน เจ็บแน่นทรวงอก เหนื่อยหอบ หรืออาการคันตามตัว ควรรีบพบแพทย์ทันที
ด้วยความห่วงใยจาก
วันเวลาทำการ
เปิดให้บริการ ทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ เวลา 08:00 – 20:00 น.
หากท่านมีข้อสงสัยในอาการเจ็บป่วย หรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ได้ทางช่องทางดังต่อไปนี้
- Facebook : โรงพยาบาลราชเวชอุบลราชธานี
- Line : Line Official RajavejUbon
- Tel : 045 959 683