เช็กความพร้อม เพื่อลดความเสี่ยง เกิดอาการป่วยในขณะเดินทาง ไปต่างประเทศ
หากเราสุขภาพไม่แข็งแรง ย่อมเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย ทั้งนี้อาจมีอาการที่รุนแรงมากกว่าคนทั่วไป หรือถ้าเราเป็นโรคติดต่อบางอย่าง ที่เป็นโรคต้องห้ามในการเข้าประเทศนั้นๆ ก็จะเป็นอุปสรรคสำคัญในการเดินทางเข้าประเทศ หรือหากเข้าประเทศได้แล้วมีอาการก็จะเป็นปัญหาเรื่องการรักษาพยาบาลที่ไม่สะดวกเหมือนอยู่ในประเทศไทย
ดังนั้น เราควรต้องศึกษาก่อนว่า ประเทศที่เราจะเดินทางไปนั้น มีโรคต้องห้ามหรือมีโรคระบาด ที่ต้องระวังเป็นพิเศษหรือไม่ เพื่อที่เราจะได้เข้ารับการตรวจสุขภาพเบื้องต้นให้ตรงกับโรคต้องห้าม หรือโรคที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงของประเทศนั้นๆ รวมถึงหาทางป้องกัน เช่น การฉีดวัคซีนล่วงหน้าเพื่อจะได้มีภูมิคุ้มกันก่อนเดินทาง เป็นต้น
อาการและโรคที่ต้องระวังเมื่อเดินทางไกลบ้านหรือไปต่างประเทศ
- Acute Mountain Sickness หรือ High Altitude Sickness เป็นอาการที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายไม่สามารถปรับตัวได้จากความกดดันอากาศที่เปลี่ยนไปอย่างมากเมื่อขึ้นสู่ที่สูง ซึ่งโดยทั่วไปต้องสูงกว่า 2,500 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล อาการเบื้องต้นที่พบบ่อยคือ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน นอนไม่หลับ เหนื่อยหอบ หากลงจากที่สูงแล้ว 1-2 วัน อาการยังไม่ดีขึ้นควรพบแพทย์
- Jet Lag เป็นอาการชั่วคราวที่เกิดขึ้นกับผู้โดยสารเครื่องบินที่ต้องเดินทางข้ามเขตเวลา (Time Zones) ทำให้สมองสับสนกับเวลา และปรับกิจวัตรให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ที่มีเวลาต่างกันไม่ทัน อาการที่พบบ่อยคือ นอนไม่หลับ เพลีย เวียนศีรษะ ขาดสมาธิ และระบบทางเดินอาหารแปรปรวน ท้องเสียหรือท้องผูก การออกไปรับแสงแดดยามเช้าสัก 30 นาทีในทุกๆ วัน จะช่วยให้อาการดีขึ้นได้
- ท้องเสีย นับเป็นปัญหาที่พบบ่อยที่สุดในหมู่นักเดินทาง มักมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส หรือโปรโตซัวที่ปนเปื้อนมากับอาหารหรือน้ำดื่ม รวมถึงการกินอาหารแปลกๆ ที่แตกต่างไปจากที่ร่างกายคุ้นเคย ก็ทำให้ท้องเสียได้เช่นกัน
- คลื่นไส้ วิงเวียน มักเกิดในขณะนั่งรถ เรือ หรือเครื่องบิน และแม้แต่การเล่นเครื่องเล่นในสวนสนุก หากเรารู้ตัวว่ามักมีอาการเหล่านี้ขณะเดินทาง ควรกินยาป้องกันไว้ก่อน
- ไข้มาลาเรีย (Malaria) เกิดจากเชื้อไวรัสที่มียุ่งก้นปล่องเป็นพาหะ ที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อไข้มาลาเรียแล้วกว่า 350-500 ล้านคนทั่วโลก และปัจจุบันยังมีการระบาดในทวีปแอฟริกา อเมริกากลาง อเมริกาใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทยก็ยังพบได้ในพื้นที่ป่าเขา น้ำตก และชายแดนแถบจังหวัดกาญจนบุรี ตาก ราชบุรี เพชรบุรี อุบลราชธานี ศรีสะเกษ
- ไข้เหลือง (Yellow Fever) เกิดจากเชื้อไวรัสที่มียุงเป็นพาหะ อาการที่เด่นชัดคือตัวเหลืองตาเหลืองหรือดีซ่าน ปวดศีรษะ มีไข้สูง โรคนี้พบมากในทวีปแอฟริกา ทวีปอเมริกาใต้ และแถบทะเลแคริบเบียน
- ไข้กาฬหลังแอ่น เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชื่อ Neisseria meningitidis ที่ทำให้เกิดการอักเสบของเยื่อหุ้มสมองและไขสันหลัง เป็นความเสี่ยงสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางไปยังทวีปแอฟริกา ซึ่งครอบคลุมกว่า 21 ประเทศ ตั้งแต่ประเทศเซเนกัลไปทางตะวันออก ไปจนถึงประเทศเอธิโอเปีย
- ไทฟอยด์ หรือ ไข้รากสาดน้อย เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Salmonella Typhi ที่ปนเปื้อนมาในอาหารหรือน้ำดื่ม อาการสำคัญคือมีไข้สูง อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร แน่นท้อง ท้องผูก และตามมาด้วยท้องเสีย หากไม่ได้รับการรักษาจะมีไข้นาน 2-3 สัปดาห์
ด้วยความห่วงใยจาก
วันเวลาทำการ
เปิดให้บริการ ทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ เวลา 08:00 – 20:00 น.
หากท่านมีข้อสงสัยในอาการเจ็บป่วย หรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ได้ทางช่องทางดังต่อไปนี้
- Facebook : โรงพยาบาลราชเวชอุบลราชธานี
- Line : Line Official RajavejUbon
- Tel : 045 959 683